เผย คาถาโบราณ จากหลวงพ่อกบ พระผู้ทรงอภิญญา วัดเขาสาริกา ลพบุรี
เผ ย คา ถาโบราณ จากหลวงพ่อกบ พ ร ะ ผู้ทรงอภิญญา วัดเขาสาริกา ลพบุรี
สำหรับใครหลายคนคงอาจจะเคยรู้จักกันมาบ้างในเรื่องของคาถาโบราณ กับ หลวงพ่อกบ พระภิกษุสงฆ์ที่พุทธศาสนิกชนทั่วไปให้ความเคารพ
และเลื่อมใสศรัทธา ชีวประวัติของท่านไม่ได้บันทึกไว้ชัดเจน เป็นแต่เพียงการเล่าขานสืบต่อกัuมาว่า ท่านธุดงค์มาปักกลดอยู่ที่ชายป่าด้านเขาสาริกา เมื่อประมาณปลายปีพ.ศ. 2430 โดยที่ไม่มีใครทราบวาท่านมาจากไหน
ชาวบ้านพบครั้งแรกในสภาพนุ่งห่มจีวรเก่าคร่ำคร่า แบกไม้คานหาบกระบุงเปล่าไว้บนบ่าสองใบ เดินผ่านมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ชาวบ้านร้องทักว่า “หลวงพ่อหาบกระบุงเปล่าไปทำไม” ท่านก็ตอบว่า “กูหาบมาใส่เงินใส่ทองโว้ย” ว่าแล้วก็เดินดุ่ม ๆ เข้าไปพำนักในวัดเขาสาริกา หมู่ 6 ต.สนามแจง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ซึ่งสมัยนั้นเป็นวัดเก่า ๆ เกือบจะเป็นวัดร้าง
หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี เป็นผู้ทรงศีลที่มีฌานสมาบัติขั้นสูง ຍากที่จะเข้าถึงได้จะนำเสนอเรื่องราวของท่านพอสังเขป การบำเพ็ญเพียรภาวนาปกติหลวงพ่อกบจะอยู่ในท่านั่งยอง ๆ เป็นเวลาย าวนานติดต่อกัน คราวละ 7 – 14 วัน โดยที่ท่านจะไม่ ลุกไปไหน ไม่ฉันอาหาร น้ำ หรือแม้แต่การถ่ายหนัก ถ่ายเบา เป็นเรื่องที่สร้างความอัศจรร ย์ใจให้แก่ผู้พบเห็นเป็นอัuมาก
ปฏิปทาอันเหลือเชื่อของท่านเกิดขึ้นได้ เพราะท่านสามารถถอดจิตออกจากกายได้ ทำให้ไม่รับรู้ต่อสภาพความหิว และความ เ จ็ บ ปวดใด ๆ การนั่งยองๆไม่ว่าจะสวดมนต์ หรือทำกิจวัตรใด ๆ และจะจำวัตรด้วยท่าตะแคงขวาเป็นประจำ
หลวงพ่อท่านจะนุ่งสบงเก่า ๆ ผืนเดือuไม่ห่อจีวร ที่คอจะแขวนลูกกระพรวน อยู่แต่ในวัดไม่เคยเดินออกไปไหนเลย ใช้น้ำชา และต้มเครื่องเทศเป็นสมุนไพรรักษา โรกต่าง ๆ ชื่อเสียงของท่านถูกกล่าวขานปากต่อปาก ผู้คนจำนวนมาทำการรักษาจากท่าน เป็นเรื่องที่ชี้ให้เห็นถึงปฏิปทาที่เต็มไปด้วยความเมตตาอย่างสูงของท่าน
หลวงพ่อกบ ท่านได้ละสังขารเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2496 หลวงพ่อโอภาสีได้มาที่วัดและเป็นประธานในงานเผาสรีระของท่าน เพราะการเดินทางในสมัยนั้นຍากลำบากมากและหนทางไกลด้วย
คาถาเรียกเงินทอง ของหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา ลพบุรี
โอมละลวย มหาละลวย มะอะอุ
สิวังพรหมา จิตตังมานิมามา
ทองหนึ่งทอง ทองสองทอง
โอมมหาจินดา เงินทองไหลมานิมามา
นี่คือบทสวด คาถาเรียกเงินทอง ของหลวงพ่อกบ แห่งวันเขาสาลิกา จังหวัดลพบุรี ซึ่งหลวงพ่อกบจะเน้นย้ำกับคำว่า ทองหนึ่ง หนึ่งทอง ทองหนึ่ง หมายถึง หนึ่งไม่มีสอง เปรียบเสมือนทอง ยังไงก็เป็นทอง ดั่งคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เป็นหนึ่งในโลก ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าใดก็ยังคงเป็นหนึ่งเสมอ
ที่มา soochivith